การจัดพอร์ตกองทุนแบบต่างๆ

ไม่มีอะไรครับ นึกสนุกอยากลองออกแบบจัดพอร์ต Asset Allocation แบบต่างๆดู ^^

1. พอร์ตคลาสสิกตลอดกาล (ฝรั่งมักเรียก Balanced Portfolio)

สูตร 60/40

(หุ้น 60/ตราสารหนี้ 40)

classic_60-40

คำอธิบาย: หากใครไม่รู้จะจัดพอร์ตอย่างไร ไม่รู้จะเริ่มที่สัดส่วนเท่าใด ก็แนะนำว่าให้เริ่มที่สูตรนี้ได้เลย ซึ่งเป็นสูตรอมตะ ว่าไปนั่น คือประมาณครึ่งๆแต่ให้น้ำหนักกับหุ้นมากกว่านิดๆ แหม เงินเฟ้อมันรุนแรงนะ ก็ต้องให้น้ำหนักกับหุ้นมากกว่านิดนึง สูตรนี้เลือกเอากองทุนดัชนีอย่าง TMB50 มาใช้ ไม่ต้องคิดมาก โตไปกับตลาด ส่วนตราสารหนี้เอากองทุน T-TSB แล้วกันกลางๆไม่เหวี่ยงดี

ทางเลือก: อาจใช้กองทุน TMB50DV หากอยากได้ปันผล หรือ BTP หากต้องการแบบชนะตลาด ส่วนตราสารหนี้หากอยากได้ปันผล เอา KFMTFI-D แทน

 

2. พอร์ต Global Absolute Return

สูตร 50/50

(กระจายทุกสินทรัพย์และทั่วโลก)

global_absolute

คำอธิบาย: สูตรนี้เป็นการจัดพอร์ตเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นบวก (Absolute) ในทุกๆปีนะ โดยกระจายการลงทุนในทุกสินทรัพย์และทั่วโลกตามสภาวะการณ์ อาทิเช่น ตราสารหนี้ หุ้น น้ำมัน ทองคำ REIT อนุพันธ์ เป็นต้น มีอยู่สองกองทุนที่ทำแบบนี้และผลงานย้อนหลังดี คือ เป็นบวกซะส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทุกวันนะ รวยแย่เลย แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น รายปี รายไตรมาส) นั่นก็คือ กองทุน Phata SG-AA และ K-GA และเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงอีกชั้นหนึ่ง จึงเลือกถือกระจายทั้งสองกองทุนเลย

ทางเลือก: ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรเตะตา แต่จับตาผลงาน SCBGLOW อยู่

 

3. พอร์ตเน้นอินคัมสร้างกระแสเงินสด

สูตร 30/30/40

(หุ้น 30/อสังหา 30/ตราสารหนี้ 40)

income

คำอธิบาย: สูตรนี้เป็นการจัดพอร์ตแบบเน้นอินคัม คือ เน้นปันผลสม่ำเสมอเพื่อให้ได้กระแสเงินสดในทุกๆปี โดยเลือก KFMTFI-D สำหรับตราสารหนี้ โดยให้น้ำหนัก 40 และเลือกกองทุนอสังหาเพื่อเพิ่มอัตราการปันผล เพราะกองทุนอสังหามีการจ่ายปันผลที่ดีอยู่แล้ว โดยเลือกกองทุน CIMB-PRINCIPAL iProp-D เนื่องจากจ่ายปันผลสม่ำเสมอและมีการกระจายการลงทุนไปยังประเทศสิงคโปร์ด้วย ส่วนหุ้นเลือกกองทุน CIMB-PRINCIPAL iDIV-D เพราะมีผลงานที่พอใช้ได้และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ (ที่ผ่านมา 4 ครั้งต่อปี ถี่ไปเปล่า?)

ทางเลือก: สำหรับกองหุ้นอาจเลือก KFSDIV แทนก็ได้ เพราะที่ผ่านมาก็ปันผลประมาณ 4 ครั้งต่อปีแต่ผลงานแผ่วปลาย หากคิดว่ากองเหล่านี้ปันผลถี่เกินไป หุ้นตกก็ปัน ก็อาจเปลี่ยนไปเป็นกอง BKD แทน ที่ผลงานดีเยี่ยม ปีไหนหุ้นขึ้นเยอะก็ปัน ปีไหนหุ้นลงหนักก็ไม่ปัน สมเหตุสมผล ก็ได้นะ ยังไงก็มีกองอสังหาและกองตราสารหนี้ที่ความน่าจะเป็นในการปันผลทุกปีอยู่แล้ว

 

4. หุ้นร้อยแต่ขอผันผวนต่ำ

สูตร 50/50

(Low-Beta 50/Low Volatility 50)

lowbeta

คำอธิบาย: สูตรนี้ต้องการผลตอบแทนที่ดี รับความเสี่ยงได้สูง จึงลงทุนในหุ้น 100% เลย แต่ระหว่างทางก็ต้องการความผันผวนที่ต่ำกว่าตลาด (เอาใจยากเนอะ) จึงเลือกลงทุนกองทุน T-LowBeta ที่ผลงานย้อนหลังทำได้สมชื่อ แต่ก็ไม่ต้องการพึ่งพากองใดกองหนึ่งจึงเลือกผสมกองทุน TMBTMSMV ที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยคำนวณการจัดพอร์ตให้ผสมรวมออกมาแล้วมีความผันผวนที่ต่ำกว่าตลาด (คนละแบบกับกองแรกนะ)

ทางเลือก: เนื่องจากกอง TMBTMSMV (ชื่อจำยากไปป่าว) เพิ่งออกมาได้ไม่นาน จึงควรดู K-MVEQ ที่ใช้แนวคิดเดียวกันเลย อันไหนดีก็เอาอันนั้นแหละ

 

5. พอร์ตเน้นตั้งรับ Conservative

สูตร 40/30/30

(กองทุนผสมแบบ Conservative Allocation)

conservative

คำอธิบาย: สูตรนี้เน้นตั้งรับ กำไรน้อยไม่ว่า ขออย่าขาดทุนเป็นพอ เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อย แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากและชนะเงินเฟ้อ จริงๆมันก็เหมือนกับพอร์ต 20/80 (หุ้น 20/ตราสารหนี้ 80) นั่นแหละ แต่ที่เลือกเอากองทุนผสมสำเร็จรูปมาใช้ก็เพราะว่า กองทุนเหล่านี้เขาจะปรับสัดส่วนภายในพอร์ตให้เราเอง ทำให้เราแทบไม่ต้อง Rebalance พอร์ตเองเลย กองทุนที่เลือกจึงเป็นแบบ Conservative Allocation ทั้งสามกองทุนเลย คือหุ้นแทบไม่เกิน 20% ภายในแต่ละกองทุน แต่ให้น้ำหนักกับกอง B-Flex มากหน่อย 40% เพราะผลงานที่ผ่านมาดีกว่าเพื่อน

ทางเลือก: ยังไม่มี

 

6. พอร์ตหุ้นร้อยเน้นไทยผสมเทศ

สูตร 70/30

(หุ้นไทย 70/หุ้นต่างประเทศ 30)

70-30-th-int

คำอธิบาย: สูตรนี้ลงทุนในหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ คาดหวังผลตอบแทนสูง แต่ต้องการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศด้วย เผื่อในกรณีที่หุ้นไทยไม่เป็นใจ แต่ก็ยังคงให้น้ำหนักกับหุ้นในประเทศมากกว่า สูตรนี้กองหุ้นไทยใช้ TMB50 ส่วนกองหุ้นนอกใช้กองดัชนี MSCI World Index อย่างกอง TMBWDEQ

ทางเลือก: ถ้าชอบแนว Active ชนะตลาด กองหุ้นไทยไป BTP ส่วนกองหุ้นนอกไป B-Global

 

7. พอร์ตเน้นหุ้นผสม Hedging

สูตร 70/20/5/5

(หุ้นไทย 70/หุ้นต่างประเทศ 20/อสังหาต่างประเทศ 5/ทองคำ 5)

70-30hedge

คำอธิบาย: สูตรนี้คล้ายสูตรข้างต้นคือเน้นหุ้นไทย กระจายไปหุ้นนอกบ้าง และมีสัดส่วนของอสังหาต่างประเทศและทองคำเล็กน้อยเพื่อทำ Hedging เนื่องจากหุ้นทั้งโลกอาจพร้อมใจกันตกก็เป็นได้ ซึ่งทองคำมักจะแปรผกผันกับหุ้น จึงช่วยลดความผันผวนได้บ้าง ส่วนอสังหาต่างประเทศมีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ที่ไม่สอดคล้องกับตลาด S&P500 มากนักก็จะช่วยลดความผันผวนได้เช่นกัน สูตรนี้เลือกกอง TMB50/TMBWDEQ/KT-PROPERTY/TGOLDBULLION-H ตามลำดับสูตรเลย

ทางเลือก: ถ้าชอบแนว Active ชนะตลาด กองหุ้นไทยไป BTP ส่วนกองหุ้นนอกไป B-Global

 

8. พอร์ตสี่สหาย

สูตร 25/25/25/25

(หุ้นไทย 25/หุ้นนอก 25/ตราสารหนี้ไทย 25/ตราสารหนี้นอก 25)

four_core

คำอธิบาย: พอร์ตนี้เน้นการบาลานซ์ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ แต่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศในทั้งสองสินทรัพย์ด้วย จึงใช้กองทุน 4 กองด้วยกันคือ กองหุ้นไทย TMB50, กองหุ้นนอก TMBWDEQ, กองตราสารหนี้ไทย T-TSB, กองตราสานหนี้นอก TMBGINCOME

ทางเลือก: กองหุ้นไทยอาจเลือก BTP ถ้าชอบแบบชนะตลาด กองหุ้นนอกอาจเลือก B-Global ถ้าชอบแบบชนะตลาดเช่นกัน สำหรับกองตราสารหนี้นอกอาจใช้ KF-TRB ได้ครับ

9. พอร์ตรองรับแรงกระแทก

สูตร 25/25/25/25/25

shock_absorber

คำอธิบาย: พอร์ตนี้เน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลัก เนื่องจากต้องการผลตอบแทนที่สูงและรับความเสี่ยงได้มาก แต่ในยามตลาดเป็นขาลง ก็ต้องการให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ดังนั้นจึงเลือกกระจายการลงทุนไปยังกองหุ้นประเภท Defensive/LowBeta/กองผสม อันได้แก่

  • T-LowBeta ซึ่งถูกออกแบบให้ผันผวนต่ำกว่ากองทั่วไป
  • BBasic ซึ่งลงทุนในหุ้นต้องกินต้องใช้ (Defensive)
  • Phatra SG-AA เป็นกองแบบ Absolute Return สร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกทุกสภาวะการณ์
  • B-Flex กอง Conservative Allocation
  • K-Plan3 กอง Moderate Allocation

ทางเลือก: K-Plan3 อาจเลือกใช้เป็น CIMB-PRINCIPAL iBalanced แทน

100. Core and Explore

สูตร 85/15

(Core 85/ Explore 15)

core_explore

คำอธิบาย: อ่านไม่ผิดหรอกครับ สูตรที่ 100 ประมาณว่ายังมีสูตรอื่นอีก แต่สูตรนี้สูตรสุดท้าย โดยมีแนวคิดคือ ให้ใช่สูตรที่ผ่านๆมาเป็นแกนหลักหรือ Core ที่ 85% คือเลือกกลยุทธ์ไป เช่น เอาเบอร์ 5 “พอร์ตเน้นตั้งรับ Conservative” เป็นต้น หรือเราเรียกว่านี่คือ Strategic ของเรา ส่วนอีก 15% แล้วแต่อยากทดลองอยากเล่นสนุกปรับเปลี่ยนนู่นนี่นั่นเลย เช่น อาจเล่นหุ้นเอง เล่นแนว Trading เป็นต้น เพราะฉะนั้นผลการดำเนินงานจึงไม่น่าจะบิดเบือนไปจาก Strategic หลักเราได้ ส่วน Explore คงไม่ขาดทุนเหลือศูนย์หรอกนะ รึป่าว ^^ แต่เราอาจทำให้ผลงานมันดีขึ้นจากการปรับเปลี่ยนในส่วนของ Explore (แต่สัดส่วนภายใน 85% ข้างต้นต้องไปคำนวณเอาเองนะ)

 

ปูลู เหนื่อยแระ เอาแค่นี้ก่อนนะ ^^ (อัพเพิ่มแล้ว)

ปูลู รายละเอียดกองทุนที่ใช้จัดพอร์ต บางกองก็มีเขียนข้อมูลไว้บ้างนะ ลอง Search หาเอาครับ ^^

ปูลู พอร์ตที่จัดข้างบนเน้นแบบ Lazy Portfolio เรียกเท่ห์ๆดูดีวิชาการว่าแบบ Strategic Asset Allocation Portfolio คือ วางเป้าหมาย เลือกออกแบบพอร์ตที่เหมาะสม แล้วถือยาวๆไปกับมันเลย ต่างๆกับพอร์ตที่หลายๆเว็บไซต์หรือบลจ.แนะนำนะครับ เพราะเขา Active มาก เขาจะแนะนำปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่เราต้องหมั่นตามให้ทันนะ อันนี้เน้นแนวขี้เกียจ ฮา ^^ ของคนอื่นไม่เอาไปพูด เดี๋ยวโดนตึบ ^^

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Asset Allocation