การอ่านหนังสือชี้ชวนส่วนสรุป
วันนี้เรามาดูวิธีการอ่านหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปกัน ว่ามีตรงจุดไหนที่เราควรให้ความสนใจกันบ้าง เริ่มจากส่วนหัวเลย ที่มุมซ้ายบน เขาจะบอกเราว่าเป็นกองทุนรวมประเภทไหน เช่น หุ้น หุ้นต่างประเทศตราสารหนี้ กองผสม เป็นต้น รวมทั้งบอกนโยบายการลงทุน เช่น Conservative Allocation, Equity Large Cap เป็นต้น
ถัดลงมานิดนึง เขาจะบอกว่า มีจ่ายปันผลหรือไม่ (บางกองบอกไม่จ่าย แต่ใช้วิธีการซื้อคืนอัตโนมัติ ต้องอ่านข้างล่าง) ค่าใช้จ่ายรวมหรือค่าบริหารกองทุนนั่นเอง ถ้าแพงแต่ผลงานไม่ดี ก็บ๊ายบาย และวันที่เริ่มจัดตั้งกองทุน ถ้าเริ่มมานาน เราก็ดูผลงานย้อนหลังได้ว่า น่าสนหรือไม่
ถัดมาเน้อ ระดับความเสี่ยงของกองทุน อันนี้คนไม่ค่อยสนใจกัน แบบว่าซื้อบ่อยก็ชินไปเอง แต่อันไหนมันได้ระดับ 8 สูงสุด ก็วิเคราะห์กันดีๆหน่อย ยั้งๆมือซื้อบ้างก็ดีนะ
ถัดลงมาเขาจะอธิบายวิธีการเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เขาจะไปลงทุน ส่วนนี้จะค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะถ้าเป็นกองทุนหุ้นที่ไม่มีธีมอะไรเลย เขาก็จะเขียนกว้างเกิ้น เช่น ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี บลาๆ แน่สิ ใครจะลงหุ้นปั่นหา เป็นต้น แต่ถ้าเป็นกองทุนที่มีธีมชัดเจนอันนี้จะบอกเราได้คร่าวๆเลย ^^ อ่อ ถ้าเป็นกองทุนต่างประเทศ ประเภทไปซื้อกองแม่ในต่างประเทศอีกทีหนึ่ง เขาจะบอกว่านโยบายไปลงกองแม่กองไหนนะ แต่ส่วนวิธีเลือกหุ้นของกองแม่เขาไม่ยอมเขียนกันเลย (ปรับปรุงหน่อยเห้อะ)
ต่อปาย ใกล้ๆกันทางขวามือ ปัจจัยความเสี่ยง อันนี้คนก็ไม่ค่อยดูกันเพราะเขียนกว้างมาก ประมาณว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควร… คุ้นม่ะ แต่กับกองทุนต่างประเทศหรือกองทุนแบบมีธีม เราไม่ควรมองข้ามนะ บางทีให้อะไรกับเราดีๆ เช่นตัวอย่างข้างล่างนี้ เป็นกองตราสารหนี้ต่างประเทศ พออ่านดู อ่าวเฮ้ย มีลงใน High Yield Bonds ด้วยนะเออ เราจะได้พิจารณาได้ว่าเหมาะกับเราหรือไม่ครับ
ถัดมา ดัชนีชี้วัด อันนี้สำคัญนะ เพราะบอกได้ว่าเน้นลงทุนแข่งกับอะไร เช่นกองหุ้นทั่วไปก็มีดัชนีชี้วัดเป็น SET/SET50 เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าผลงานแต่ละปีมันก็จะสอดคล้องไปกับดัชนีชี้วัดนั่นแหละ แต่พวกกองผสมนี่เราเดาจากชื่อกองทุนไม่ได้ ต้องดูส่วนผสมของดัชนีชี้วัดนะครับ จะได้รู้ว่ามันน่าสนไหม เช่นจากรูปข้างล่างนี้
ก่อนจะซื้อกองทุนเขา เราจะไม่ดูพอร์ตเขาหน่อยหรือว่าถูกใจเราหรือเปล่า ก็เลื่อนลงมาหน่อย ก็จะเจอสัดส่วนการลงทุนล่าสุด (อาจช้าไปเดือนสองเดือน แต่พอเดาทางได้) 5 อันดับแรกสินทรัพย์ที่ไปลงทุนดังรูปล่างครับ
และที่ขาดไม่ได้เลย และผมมักจะเลื่อนมาดูเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง !!!! ถ้ามันไม่กำไร แถมขาดทุนเยอะ ก็แทบจะปิดทิ้งไม่อ่านต่อกันเลยทีเดียว แต่ถ้ากำไรดีนี่อ่านต่อตรงไหน เคลิบเคลิ้มตรงนั้น (แต่พอซื้อเท่านั้นแหละ ดอย เซ็ง) อ่อ ดูดีๆนะเจ้า % กำไรหน่ะ ว่าต่อปีหรือไม่
ใกล้ละใกล้หมดละ สองส่วนสุดท้าย สำคัญอีกเช่นกัน ส่วนค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมซื้อขาย ดูดีๆนะ บางเจ้ามีขั้นต่ำด้วย พวกเล่นสั้นหรือแบ่งไม้ต้องดูดีๆเลย
และสุดท้ายวันเวลาซื้อขายและขั้นต่ำ บางกองทุนอ่านมาซะดิบดี น่าสนสุดๆแต่บอกขั้นต่ำ 500,000 บาท อ่านไม่ผิดหรอก พวกกอง Total Return อ่ะ ขั้นต่ำห้าแสน จบข่าว กองทุนต่างประเทศก็มีเวลาซื้อขายที่ไม่ค่อยตรงกับกองทั่วไป บางกองซื้อได้บางวันของเดือนก็มี ดูดีๆนะครับ อ่อ ดูเวลารับเงินขายคืนด้วย T+n เราจะได้บริหารเงินของเราได้ถูกต้อง
หมดแล้วจ้า คร่าวๆก็ดูเท่านี้นะ แล้วก็ค่อยไปวิเคราะห์ตามแต่ละปัจจัยของแต่ละกองกันไปครับ
(เริ่มต้นลงทุนกองทุนกองทุนรวม อ่านได้ที่นี่เลย)